วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ท่องเที่ยวกระบี่

สถานที่ท่องเที่ยว กระบี่



          เกาะปอดะนอก หรือ เกาะไก่ หรือเกาะด้ามขวาน เกาะรูปร่างประหลาด ซึ่งกลายเป็นที่มาของชื่อเกาะอันหลากหลาย เนื่องจากชะง่อนผาที่ยื่นออกมาทางด้านใต้ ทำให้ผู้พบเห็นเกิดจินตนาการต่างๆกันไป บ้างก็เห็นเกาะคล้ายกับส่วนหัวของไก่ บ้างก็เห็นเป็นด้ามขวานที่วางตั้งอยู่ แต่ฝรั่งตาน้ำข้าวกลับมองเห็นเป็นป็อบอาย ตัวการ์ตูนดังในสมัยยังแรกรุ่น หรือบางท่านอาจจะยังอยู่ในวัยอ่อนเดียงสา กำลังนอนคาบไปป์อย่างมีความสุข ท่านสามารถดำผิวน้ำชมปะการังน้ำตื้น หรือปะการังแข็งได้ที่เกาะไก่นี้ แต่ความสมบูรณ์ของปะการังก็คงไม่อาจเทียบเท่ากับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆที่ห่างไกลจากผืนแผ่นดินใหญ่ ความประทับใจที่ท่านจะได้พบ ก็คงจะเป็น หาดทรายขาวทอดยาว เคียงคู่ไปกับน้ำทะเลสวยใส กับปลาลายเสือฝูงใหญ่ ที่มีมนุษยสัมพันธ์เป็นเลิศ ที่มักจะมารอคอยต้อนรับ และ พร้อมที่จะเล่นกับผู้มาเยือนอยู่เสมอ


 

          อ่าวโละซามะ อีกมุมหนึ่งของทะเลอันดามันซึ่งเงียบสงบ กลางท้องน้ำ ท้องฟ้า และภูเขาหินที่ตระหง่านเหนือเวิ้งทะเล บริเวณชายหาดเล็กๆทางด้านขวาทอดตัวอยู่เคียงคู่เกลียวคลื่นที่เคลื่อนตัวตามลมพลิ้วไหว โดยมีหมู่แมกไม้พุ่มและไม้เลื้อยสีเขียวสดโลมเลียเข้ามาเป็นส่วนประกอบ ถัดต่อไปในบางส่วน คลื่นทะเลกำลังพัดเข้าปะทะ หน้าผาหินที่ประดับด้วยเรียวหินย้อยที่งามราวกับถูกออกแบบบรรจง แตกตัวกลายเป็นฟองสีขาวสาดกระเซ็นเห็นเป็นภาพที่เหนือกว่างานจิตรกรรมของจิตรกรใดๆ ในขณะที่ ใต้ผืนน้ำตื้นๆเบื้องล่าง ปะการังแข็งหลายประเภท เช่น ปะการังก้อน ปะการังแผ่น ปะการังถ้วย ได้ใช้โขดหินที่ผุดขึ้นเป็นหย่อมๆเป็นที่สร้างอาณาจักร เลยลึกลงไปใต้ท้องน้ำ คือชุมชนของปะการังอ่อน ดอกไม้ทะเล และแส้ทะเล แม้ว่า เวิ้งอ่าวที่สวยงามแห่งนี้ มีขนาดไม่ใหญ่ และไม่สวยงามเท่าอ่าวมาหยา แต่ความสงบเงียบ ณ ที่แห่งนี้ ได้สร้างจินตนาการให้ล่องลอยเข้าไปสู่ความเคลื่อนไหวของท้องทะเล


          เกาะพีพีเล  พื้นที่เพียง ๖.๖ ตารางกิโลเมตร ของเกาะที่เต็มไปด้วยภูเขาหินปูนโดยรอบเกือบทั้งเกาะ หน้าผาสูงชันตั้งฉากกับผิวน้ำทะเลที่มีความลึก เฉลี่ยประมาณ ๒๐ เมตร โดยมีบริเวณที่น้ำลึกสุดประมาณ ๓๔ เมตรอยู่ทางตอนใต้ ทำให้กลายเป็นแหล่งชุมชนของตัวมวลปะการังมากมาย นับแต่แนวด้านตะวันออกเฉียงใต้ ไปตลอดถึงชายฝั่งตะวันออก ในขณะที่บางช่วงเป็นหน้าผามีแนวปะการังเคลือบอยู่เล็กน้อย และยังมีกัลปังหา อีกทั้งหอยมือหมีรวมอยู่ด้วย ปะการังที่เคยหนาแน่นอยู่ในท้องทะเลแถบนี้ เท่าที่มีการสำรวจพบว่าจะเป็นจำพวกปะการังโขดปะการังผิวยู่ยี่ ปะการังดาวใหญ่ ปะการังสีน้ำเงิน ปะการังดอกไม้ทะเล ปะการังถ้วยสมอง ปะการังไฟ ปะการังดอกเห็ด ปะการังเขากวางทรงพุ่มพาน สิ่งต่างๆเหล่านี้ คืออัญมณีเม็ดงามที่ได้ถูกซุกซ่อนไว้ภายในเกาะแห่งนี้ มานานนับแรมปี รอคอยผู้คนมาค้นพบขุมทรัพย์ล้ำค่าแห่งนี้

           

          อ่าวมาหยา เกิดขึ้นด้วยกระบวนการเดียวกันกับอ่าวปิเละ แต่ส่วนหนึ่งของหน้าผาที่โอบล้อมพังทลายกลายเป็นช่องเปิดขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับทะเลภายนอก น้ำทะเลไหลเวียนเข้าออกได้ดี เกาะหินปูนแห่งนี้ยังตั้งอยู่ห่างชายฝั่งหลายสิบกิโลเมตร ตะกอนที่มาจากอ่าวพังงามีอิทธิพลน้อยมาก น้ำทะเลใสช่วยให้แสงส่องผ่านในระดับเหมาะสม ตัวอ่อนของปะการังที่ล่องลอยอยู่ทั่วบริเวณพากันลงเกาะบนหินที่ทับถมอยู่กลางอ่าว เมื่อยึดที่มั่นได้ แต่ละตัวสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศแบ่งตัวจากหนึ่งเป็นสอง...สองเป็นสี่ เวลาผ่านไปหลายพันปี แนวปะการังขยายขนาดปกคลุมทั่วอ่าวมาหยา ในเวลาเดียวกับที่ทะเลมีการเปลี่ยนแปลง กระบวนการของธรรมชาติยังเกิดขึ้นบนชายฝั่ง ตะกอนทรายตกทับถมรวมกันกลายเป็นหาด ผลของพืชชายทะเลที่ล่องลอยมากับน้ำบ้าง มากับสัตว์ต่างๆ บ้าง เจริญงอกงามกลายเป็นป่าชายหาด กินพื้นที่ตอนในของอ่าวประมาณ ๕๐ ไร่ 

 

          เวิ้งอ่าวมาหยา ที่มีพื้นที่หลบอยู่ในภูเขาหินประมาณความยาว ๒๕๐ เมตรนั้น ส่วนหนึ่งถูกตกแต่งโดยธรรมชาติให้เป็นพื้นที่หาดทรายกว้างประมาณ ๕-๑๕ เมตร ทันทีที่ก้าวลงจากเรือและย่ำลงไปบนพื้นหาดทราย จะรู้สึกได้ว่า หาดทรายผืนเล็กผืนนี้ มันช่างนุ่มเท้าและขาวสะอาด ถึงขนาดต้องหลับตาให้ม่านตาได้ทุเลาลงจากแสงแดดที่ส่องสะท้อนขึ้นมากระทบบ้างในบางครั้ง หากลองย้อนกลับไป ความผ่องใสพิสุทธิ์ เนื้อทรายที่เป็นปุยนุ่มนวลเท้าของหาดทรายแห่งนี้ ล้วนเป็นผลพวงอย่างหนึ่งที่เกิดจาก ซากของปะการังที่ถูกทำลายจนย่อยยับ แหลกละเอียดเป็นชิ้นเป็นผง ตามวัฏจักรแห่งธรรมชาติ ในท้ายที่สุดถึงถูกเกลียวคลื่นสาดซัดขึ้นมากองทับถมมานานนับแรมปี 
          การเดินทางเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ของทีมงานต่างประเทศ เรื่อง “เดอะบีช” กลายเป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สื่อมวลชนแทบจะทุกแขนง ได้พากันนำเสนอข่าวภาพยนตร์เรื่องนี้ ยิ่งกว่านั้น การกำหนดตัว นายลีโอนาโอ ดิ คาปิโอ ที่เขย่าโลกในบทของ “แจ็ค” จากภาพยนตร์เรื่อง “ไททานิค” ให้เป็นตัวพระเอก ยิ่งทำให้ข่าวดังกล่าวลุกกระพือกลายเป็นที่สนใจของประชาชน ด้วยความงามของหาด และความโด่งดังจากภาพยนต์เรื่อง “เดอะบีช” ทำให้ในแต่ละวัน มีนักท่องเที่ยวมาเยือนอ่าวแห่งนี้มากมา




          เขาขนาบน้ำ articleสัญลักษณ์ของเมืองกระบี่ เป็นเขาสองลูกสูงประมาณ 100 เมตร ขนาบแม่น้ำกระบี่ด้านหน้าตัวเมือง ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองกระบี่ สามารถไปเที่ยวชมได้โดยเช่าเรือหางยาวที่ท่าเรือเจ้าฟ้า ใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาที นอกจากนั่งเรือชมเขาและป่าชายเลนที่มีความสมบูรณ์แล้วยังสามารถเดินขึ้นไปเที่ยวถ้ำได้ ภายในมีหินงอกหินย้อย และเป็นสถานที่ที่เคยพบโครงกระดูกมนุษย์จำนวนมากอีกด้วยแต่ปัจจุบันไม่หลงเหลืออยู่แล้ว สันนิษฐานว่าอาจเป็นโครงกระดูกของกลุ่มคนที่อพยพมาตั้งหลักแหล่งแต่ล้มตายลงเนื่องจากเกิดอุทกภัยอย่างฉับพลัน และสำหรับนักนิยมพายเรือแคนู บริเวณนี้เหมาะที่จะพายเรือแคนูเพราะมีธรรมชาติที่เขียวชอุ่มด้วยป่าชายเลนและน้ำนิ่ง สนใจสามารถติดต่อบริษัทเรือแคนู ในจังหวัดกระบี่ได้
          นอกจากนั้นไม่ห่างจากเขาขนาบน้ำจะมีชุมชนชาวเกาะกลาง ที่บนเกาะจะมีหอพิพิธภัณฑ์และศูนย์หัตถกรรมพื้นบ้านแสดงเครื่องใช้ในสมัยโบราณ ของที่ระลึกฝีมือชาวบ้าน อาทิ เรือโทงเทง และจะได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้าน การทอผ้าฝ้าย การเลี้ยงปลาในกระชัง นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือจากท่าเรือเทศบาล บริเวณเขาขนาบน้ำ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ค่าเช่าเรือลำละ 300 บาท


          หมู่เกาะพีพี อยู่ห่างจากอำเภอเมือง 42 กิโลเมตร เป็นหมู่เกาะกลางทะเล ที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ซึ่งประกอบด้วยเกาะ 6 เกาะ คือ เกาะพีพีเล เกาะพีพีดอน เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ เกาะบิดะนอก และเกาะบิดะใน เล่ากันว่า เดิมชาวทะเลเรียกหมู่เกาะแห่งนี้ว่า “ปูเลาปิอาปิ” คำว่า “ปูเลา” แปลว่าเกาะ คำว่า “ปิอาปิ” แปลว่าต้นไม้ทะเลชนิดหนึ่งจำพวกแสม และโกงกาง ต่อมา เมื่อชาวมุสลิม และผู้คนจากแผ่นดินใหญ่เข้ามาอยู่ จึงเรียกชื่อเกาะนี้สั้นๆว่า “ปีปี” ซึ่งภายหลังกลายเสียงมาเป็น “พีพี” 
        หมู่เกาะพีพี ได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรแห่งบุปผาใต้สมุทร นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวหมู่เกาะแห่งนี้ส่วนใหญ่ มาเพื่อดำน้ำดูปะการัง ดอกไม้ทะเล และปลาหลากสีสันที่สวยงาม  


          อ่าวไร่เลย์และหาดอ่าวพระนาง ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ในบริเวณอ่าวเต็มไปด้วยเกาะแก่งมีทิวทัศน์โดยรอบสวยงามแปลกตากว่าหาดอื่นๆ เพราะด้านหนึ่งของอ่าวเป็นภูเขา มีถ้ำหินงอก หินย้อย เรียกว่า ถ้ำพระนาง ภายในถ้ำจะเป็นหินงอก หินย้อย สลับซับซ้อนเป็นชั้นๆ และมีหาดทรายที่สวยงาม ได้แก่ หาดไร่เลย์ หาดถ้ำพระนาง หาดน้ำเมา ซึ่งหาดทั้ง 3 แห่งนี้ ไม่สามารถเดินทางโดยรถยนต์ได้เนื่องจากมีภูเขากั้น การเดินทางเข้าถึงต้องเช่าเรือจากอ่าวนาง นอกจากนี้บริเวณหน้าอ่าวนางยังมีเกาะน้อยใหญ่ คือ เกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะปอดะ ซึ่งมีรูปร่างแตกต่างกันไป แล้วแต่มุมมองหรือจินตนาการของผู้พบเห็น ที่ผ่านมาบางคนก็เห็นว่าเหมือนหัวไก่ รองเท้าบู๊ท และเรือสำเภา แล้วท่านจะไม่ลองใช้จินตนาการของท่านบ้างหรือ ?

          วัดถ้ำเสือ ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่มาไม่ไกลนัก ราวๆ5-6 กิโลเมตร ชื่อวัดนั้นมีข้อสันนิษฐานว่าเนื่องจากในอดีตเคยมีเสืออาศัยอยู่ และภายในถ้ำยังปรากฏหินธรรมชาติ เป็นรูปแบบของอุ้งเท้าเสือ ส่วนที่มาของวัดนี้น่าจะมาจากพระธุดงค์ที่เดินทางจาริกไปเพื่อหาสถานที่วิเวกในการปฏิบัติธรรม มาอาศัยอยู่ตามถ้ำ และมีชาวบ้านที่ศรัทธาตามมากราบไหว้เป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นวัดในเวลาต่อมา
          วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง ทั้งความโดดเด่นของวัดและชื่อเสียงของ"หลวงพ่อจำเนียร" เจ้าอาวาสวัดถ้ำเสือที่มีผู้เลื่อมใสศรัทธามาช้านาน
          สภาพโดยทั่วไปของวัดถ้ำเสือมีลักษณะ  เป็นสวนป่า เป็นโพรงถ้ำ มีเพิงผาและแหล่งถ้ำธรรมชาติ สามารถใช้เป็นศูนย์กลางการนั่งฌานของพระภิกษุและเหล่าอุบาสก อุบาสิกาได้อีกด้วย 
          สิ่งสำคัญใน"วัดถ้ำเสือ"นั้นที่ดูเหมือนจะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดและเป็นที่นิยมชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติก็คือการที่ได้มาแวะสักการะขอพรจาก"เจ้าแม่กวนอิม"ซึ่งมีความสูงใหญ่กว่า 5 เมตร ที่ตั้งประดิษฐานอยู่ภายในวัดยังสามารถแวะกราบไหว้ "พระพุทธรูปหยกขาว"ศิลปะพม่าอายุนับร้อยปีและ "พระพุทธบาทจำลอง"ได้อีกด้วย ใครที่มาเที่ยววัดถ้ำเสือแล้วยังไม่ได้ขึ้นเขาพิชิตบันได 1,200 ขั้น ถือว่ายังมาไม่ถึงวัด เมื่อขึ้นบันไดมาแล้วทุก 100 ขั้นของบันไดจะเขียนตัวเลขบอกไว้ให้เรานับว่าเหลืออีกกี่ขั้นจึงจะถึงบนยอดเขา
          สาเหตุที่ต้องตะเกียดตะกายขึ้นบันไดกว่า1,200ขั้นนั่นก็เพื่อขึ้นไปสักการะ "พระธาตุเจดีย์ระฆังใหญ่"ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขานั่นเอง ซึ่งจากข้างบนนี้จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองกระบี่ได้รอบทิศทีเดียว

 

          อ่าวปิเละ เมื่อหลายพันหลายหมื่นปีมาแล้ว ผนังถ้ำใต้ทะเลของเกาะแห่งนี้ทนรับน้ำหนักหินปูนหลายหมื่นตันที่อยู่ด้านบนไม่ไหว ถึงแก่กาลพังทลายยุบตัวลงมาพร้อมกัน เกิดเป็นแอ่งกว้างเกือบเป็นรูปทรงกลม การยุบตัวในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นทั่วประเทศไทย บางบริเวณที่อยู่บนบก แอ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นกลายเป็นบึง เช่น ทะเลบัน (สตูล) บึงแฝด (อุ้มผาง)ฯลฯ ขณะที่แอ่งกลางเกาะในทะเลกลาย เป็น Lagoon หรือ “ทะเลใน” มีถ้ำทะเลเชื่อมต่อกับด้านนอก น้ำทะเลไหลผ่านเข้าถึง ภายในแอ่งเหล่านี้เป็นเสมือนอีกโลกหนึ่งที่โอบล้อมไว้ด้วยผาหินปูนแต่ครั้งอดีต ไม้ชายเลนเติบโตในที่ตื้นจนกลายเป็นป่าชายเลนขนาดย่อม มนุษย์ใช้ทะเลในเป็นแหล่งท่องเที่ยว หลายแห่งโด่งดังมีชื่อเสียงขจรไกล เช่น ทะเลใน (หมู่เกาะอ่างทอง สุราษฎร์ฯ) ถ้ำมรกต (ตรัง) เกาะห้อง (พังงา)เกาะห้อง (กระบี่) ฯลฯ และรวมถึงสถานที่แห่งนี้ด้วยเช่นกัน เรือแล่นอ้อมหน้าผาสูงใหญ่ จนมาถึงปากทางเข้าแคบๆ ทันทีที่เรือผ่านเข้าไป อ่าวใหญ่ปรากฏตรงหน้า


          ทะเลแหวก ลึกล้ำเข้าไปกลางทะเลลึกแห่งอันดามัน ช่วงเวลาหนึ่งที่เรานั่งเรือชมเกาะรูปร่างสวยงามแปลกตา ใครจะเชื่อว่า อีกชั่วข้ามเวลาหนึ่งทะเลที่เราผ่านมาชั่วครู่ จะลดระดับน้ำดุจทะเลแหวกออก จนกลายเป็นหาดทรายขาวสะอาดเชื่อมเกาะสามเกาะอย่างอัศจรรย์ ทะเลแหวกเป็นกลุ่มของเกาะ 3 เกาะ ที่มีหาดทรายเชื่อมติดกันได้แก่  เกาะทับ เกาะหม้อ และ เกาะไก่ ท่านสามารถเดินข้ามจากเกาะไก่ไปยังเกาะทับได้ในยามน้ำลง หากจะให้ดีก็ควรจะเป็นในช่วงน้ำลงต่ำสุดในแต่ละวัน โดยเฉพาะในวันก่อนและหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน ในอดีตนักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือ มาตกปลา มากางเต้นท์ นอนนับดาวในคืนเดือนแรม หรือชมแสงจันทร์ในคืนเดือนเพ็ญ ค้างคืนบนเกาะได้ แต่ปัจจุบัน ไม่อนุญาตให้นอนค้างแรมบนเกาะแล้ว ทะเลแหวกถือว่าเป็นไฮไลท์สำหรับแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของกระบี่เลยทีเดียว มาเที่ยวทะเลกระบี่ทั้งที ต้องมาเที่ยวทะเลแหวกให้ได้สักหนึ่งหน


          เกาะไม้ไผ่ ตั้งอยูทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน ไมไกลจากเกาะยูงเทาใดนัก ด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกมีหาดทรายสวยงามและแนวปะการังซึ่งสวนมากเป็นแนวปะการังเขากวางทอดยาวไปถึงทางทิศใตของเกาะ จนได้รับขนานนามว่าเป็น "ดงปะการังแสนไร่" ท่ามกลางทะเลอันดามัน 

 

          เกาะผักเบี้ย เป็นเกาะเล็กๆ อยู่ทางด้านหลังของเกาะห้อง น้ำทะเลที่นี่ใสสะอาด เหมาะแก่การลงเล่นน้ำบรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วย ต้นไม้น้อยใหญ่ที่อยู่ริมหาด เกาะผักเบี้ยนี้ แม้ว่าจะมีแนวชายหาดที่ไม่กว้างมากนัก แต่ก็มีหาดทรายที่ขาวสะอาดไม่แพ้หาดอื่นๆ เมื่อน้ำลงสันทรายที่เกาะผักเบี้ยนี้จะปรากฏเป็นแนวยาวไปจนจรดอีกเกาะหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า เกาะผักเบี้ยเช่นกัน และสามารถเดินถึงกันได้ในเวลาน้ำลงเต็มที่เท่านั้น เพราะในเวลาที่น้ำขึ้น น้ำก็จะแยกเกาะผักเบี้ยออกเป็นสองเกาะนั่นเอง


          สุสานหอย 45 ล้านปี ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี บริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ มีซากดึกดำบรรพ์ของหอยน้ำจืดชนิดต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นหอยขม มีขนาดยาวประมาณ 2 เซนติเมตร ซากหอยเหล่านี้ได้ทับถมกันโดยมีน้ำประสานธาตุปูนจับตัวให้กลายเป็นหินแข็งทับอยู่ชั้นหินลิกไนท์ และหินดินดาน นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ และเป็นหลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของโลก ช่วงแรกประมาณกันว่าสุสานหอยแห่งนี้เกิดขึ้นเมื่อ 75 ล้านปีมาแล้ว ต่อมาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการค้นพบหลักฐานด้านธรณีวิทยามีมากขึ้น จึงกำหนดอายุของสุสานหอยใหม่เหลือประมาณ 40-20 ล้านปี


          สระมรกต Unseen in Thailand
สระมรกต 
สระน้ำสวยใสกลางใจป่า กำเนิดมาจากธารน้ำอุ่นในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ แหล่งสุดท้ายที่พบ นกแต้วแร้วท้องดำ ซึ่งเคยสูญพันธ์ไปนานเกือบ 100 ปี ใครจะรู้บ้างไหมว่า ใจกลางป่าผืนนี้มีทั้งสระน้ำสวยใส และนกหายากอยู่รวมกัน

  

          เกาะปอดะนอก หรือ เกาะไก่ หรือเกาะด้ามขวาน เกาะรูปร่างประหลาด ซึ่งกลายเป็นที่มาของชื่อเกาะอันหลากหลาย เนื่องจากชะง่อนผาที่ยื่นออกมาทางด้านใต้ ทำให้ผู้พบเห็นเกิดจินตนาการต่างๆกันไป บ้างก็เห็นเกาะคล้ายกับส่วนหัวของไก่ บ้างก็เห็นเป็นด้ามขวานที่วางตั้งอยู่ แต่ฝรั่งตาน้ำข้าวกลับมองเห็นเป็นป็อบอาย ตัวการ์ตูนดังในสมัยยังแรกรุ่น หรือบางท่านอาจจะยังอยู่ในวัยอ่อนเดียงสา กำลังนอนคาบไปป์อย่างมีความสุข ท่านสามารถดำผิวน้ำชมปะการังน้ำตื้น หรือปะการังแข็งได้ที่เกาะไก่นี้ แต่ความสมบูรณ์ของปะการังก็คงไม่อาจเทียบเท่ากับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆที่ห่างไกลจากผืนแผ่นดินใหญ่ ความประทับใจที่ท่านจะได้พบ ก็คงจะเป็น หาดทรายขาวทอดยาว เคียงคู่ไปกับน้ำทะเลสวยใส กับปลาลายเสือฝูงใหญ่ ที่มีมนุษยสัมพันธ์เป็นเลิศ ที่มักจะมารอคอยต้อนรับ และ พร้อมที่จะเล่นกับผู้มาเยือนอยู่เสมอ  


           ธรรมชาติสองสายน้ำ ตั้งอยุ่ที่ ต.เขาคราม อ. เมือง อยุ่ในความดูแลของ อบต.เขาคราม เป็นแหล่งศึกษาเชิงนิเวศวิทยา เพื่อเรียนรู้ความสมบูรณ์ของธรรมชาติทั้งในแง่ของทางน้ำใต้ดิน และพืชพรรณที่สามารถเติบโตได้ทั้งในน้ำและบนดิน คลองสองสายน้ำมีลักษณะพิเศษคือ ลำคลองมีทั้งช่วงที่น้ำจืดสนิท และช่วงที่มีน้ำกร่อย เมื่อน้ำทะเลลด น้ำในคลองจืดสนิท ยามน้ำทะเลขึ้นก็เปลี่ยนเป็นคลองน้ำเค็ม ได้ลำธารที่ใสสะอาดราวกระจก อุดมไปด้วยหญ้าทะเลเขียวสดงอกงามจำนวนมาก ทำให้สามารถพายเรือแคนู ในคลองสองน้ำได้ หรือใช้เส้นทางเดินธรรมชาติ ซึ่งผ่านป่าพรุน้ำจืดและรอยต่อป่าสองถิ่น ตลอดแนวลำคลอง ความยาวประมาณ 700 เมตร ตลอดทางเดินนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความงามของพื่ชวงศ์ปาล์ม เช่น มะพร้าว ตาล อ้อและต้นหมากชนิดต่างๆ รวมถึงระกำ หวาย ชมพู่น้ำ โกงกาง และผักพื้นบ้านนานาชนิด


          น้ำตกร้อน สายน้ำจากเนินเขากลางป่า ไหลไปตามความลาดเอียงของพื้นที่ ผ่านธารน้ำพุร้อนที่ผุดขึ้นมาจากแหล่งแร่น้ำร้อนใต้ดิน ผสมผสานรวมกัน จนมีอุณหภูมิประมาณ ๔๐-๕๐ องศาเซลเซียส สายน้ำเคลื่อนตัวผ่านป่าระกำ บางช่วงมีควันกรุ่น และคราบหินปูนธรรมชาติพอกอยู่เป็นชั้นหนา ทำให้เกิดทัศนียภาพสวยงามแปลกตา ก่อนจะไหลลงสู่อ่างอาบน้ำธรรมชาติ เกิดเป็นลักษณะคล้ายชั้นน้ำตกเล็กๆ และสิ้นสุดลงที่ลำคลองสะพานยูง
          น้ำตกร้อนสายน้ำแร่ มีขนาดไม่ใหญ่นัก สูงประมาณ ๓ เมตร มี ๓ ชั้น แต่ที่พิเศษ คือ แต่ละชั้น มีแอ่งลักษณะคล้ายอ่างอาบน้ำ ซึ่งเกิดจากการก่อตัวของตะกอนหินปูนในน้ำร้อน ชั้นละ ๔ – ๕ อ่าง ลึกประมาณ ๑ – ๑.๕ เมตร ในน้ำมีสารกำมะถัน เจือจางเป็นส่วนประกอบ มีอุณหภูมิพอเหมาะสามารถอาบน้ำได้ เป็นสถานที่ นักท่องเที่ยวนิยมไปอาบธารน้ำแร่เพื่อสุขภาพ
          น้ำตกร้อน ตั้งอยู่บริเวณบ้านบางคราม-บ้านบางเตียว อยู่ห่างจากอำเภอเมืองกระบี่ตามถนนเพชรเกษม (กระบี่-ตรัง) ประมาณ ๔๕ กิโลเมตร จากนั้นแยกเข้าถนนสุขาภิบาล ๒ ตรงที่ว่าการอำเภอคลองท่อมไปอีก ๑๒ กิโลเมตร เป็นน้ำพุร้อนแห่งหนึ่งในบรรดาน้ำพุร้อนอีกหลายแห่งที่กระจัดกระจายอยู่ในบริเวณนี้ น้ำตกร้อนสามารถไปเที่ยวชมได้ทุกวัน ช่วงเวลาที่สวยที่สุดคือช่วงเช้า ๐๗.๐๐ – ๐๘.๐๐ น. และช่วงเย็น ๑๖.๐๐ – ๑๗.๐๐ น.ค่าเข้าชม เด็ก ๑๐ บาท ผู้ใหญ่ ๒๐ บาท


          เกาะห้อง ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี เกาะห้อง หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เกาะเหลาบิเละ เป็นเกาะที่มีทัศนียภาพสวยงามมาก ล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีคราม มีกัลปังหาและปะการังรอบเกาะ โดยมีจุดที่น่าสนใจได้แก่ อ่าวบิเละ เป็นอ่าวที่มีหาดทรายโค้งเป็นรูปนกบิน ทรายละเอียดขาวสะอาด น้ำทะเลใส มีฝูงปลาเล็กๆ แหวกว่ายให้เห็นอยู่ทั่วไป ห่างจากชายหาดลงไปในทะเลมีกัลปังหาและปะการังหลากชนิด ชายทะเลเหมาะแก่การเล่นน้ำ อ่าวห้อง เปรียบเสมือนสระน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ ผนังเป็นหน้าผาชันโดยรอบ ลักษณะคล้ายห้อง มีประตูทางเข้าเพียงทางเดียว กว้างประมาณ 10 เมตร สามารถนำเรือเข้าไปได้ พื้นเป็นทรายขาวสะอาดราบเรียบเสมอกัน น้ำตื้นและใสมาก เหมาะแก่การเล่นน้ำ และยังเป็นที่หลบคลื่นลมของชาวประมงเมื่อมีพายุพัดผ่าน